กาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งและ กาแฟยังป้องกันมะเร็งในปลายลำไส้ใหญ่และกระเพาะปัสสาวะ กาแฟสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในเซลล์ตับ ยังมีข้อดีอื่น ๆ ของกาแฟที่เป็นเหตุผลให้คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกาแฟเช่น กาแฟช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น (short term recall) และกาแฟช่วยเพิ่มไอคิว นอกจากนี้กาแฟยังช่วยเปลี่ยนระบบเมตาบอลิซึมให้มีสัดส่วนของลิพิดต่อคาร์โบไฮเดรตที่ถูกเผาผลาญสูงขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการล้ากล้ามเนื้อของนักกีฬา
คุณประโยชน์เหล่านี้บางอย่างจะได้ผลเมื่อดื่มกาแฟเพียงประมาณ 4 ถ้วยต่อวัน (24 ออนซ์) แต่บางอย่างก็ต้องดื่มถึง 6 ถ้วยหรือมากกว่านั้น (32 ออนซ์ หรือมากกว่า)
การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้วว่า กาแฟมีประโยชน์ในการป้องกันโรคดังกล่าว...
การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคหอบ โรคนี้ คือ อาการ ภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที และคาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรองลดการเกิดโรคหอบ
การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรค
การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยลดอัตราคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัว กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิด(HDL) เพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
การดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง มีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาว่า ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น นั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น
รายงานในวารสารการแพทย์ sleep โดยศึกษาอย่างละเอียดถึงกลไกการนอนหลับของคน พบว่า คาเฟอีนในกาแฟ จะช่วยในคนที่ง่วงนอนได้ดีเมื่อให้ในปริมาณและเวลาที่เหมาะสมพบว่า การดื่มกาแฟตอนตื่นเช้าไม่ได้ช่วยมากนักต่างกับดื่มเป็นช่วงๆ ทั้งเช้าบ่ายโดยไม่จำเป็นต้องแก่จัด การศึกษานี้ยังกล่าวด้วยว่า ในคนที่ต้องทำงานนานๆ การดื่มกาแฟช่วยลดการง่วงและอุบัติเหตุลงได้จริง
การดื่มกาแฟเป็นประจำ มีผลดีต่อถุงน้ำดี จากการที่ทำการวิจัยโดยอาสาสมัครชาย 45,000 คน ดื่มกาแฟวันละสองแก้ว จะสามารถลดการเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้ถึง 40 เปอร์เซนต์ และถ้าดื่มวันละ สี่แก้วสามารถลดได้ถึง 45 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว โดยกาแฟที่ดื่มเข้าไปนั้นจะเข้าไปป้องกันการตกตะกอนของคอเลสเตอรอล ลดการดูดชึมของเหลวเพิ่มการไหลของน้ำดีที่กรวยไต ซึ่งทั้งหมดเป็นสาเหตุของการยับยั้งการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี...
กาแฟกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ สี่แก้ว จะสามารถลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 24 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลยเพราะกาแฟจะไปกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ผลิตสารที่มีผลยับยั้งการก่อตัวของ เนื้อเยื่อที่กลายพันธ์จากเซลล์ธรรมดากลายไปเป็นเซลล์มะเร็ง และในกาแฟยังสามารถยับยั้งการเติบโต ของจุลินทรีย์ในลำไส้อันเป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งอีกด้วย
ผลต่อกระเพาะอาหาร การดื่มกาแฟเข้าไปจะไปช่วยให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดและน้ำย่อยออกมาในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการจุก แน่นท้องเนื่องจากรับประทานมากเกินไป แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะก็ควรระวังการดื่มกาแฟเวลาท้องว่างด้วยเพราะจะมีผลต่อกระเพาะ-อาหารโดยตรง อาจทำให้มีอาการมากขึ้น
โรคหอบหืด มีรายงานว่าการดื่มกาแฟวันละ 3 แก้ว จะลดอาการหอบหืด หากดื่มมากกว่า 6 แก้ว การทดสอบสมรรถภาพปอดจะดีขึ้นกาแฟก็เหมือนกับพืชอื่นๆ มีสาร flavanoid ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
จะเป็นซีอีโอได้ต้องหัดดื่มกาแฟ เครื่องช่วยให้บังเกิดความสำเร็จ ศาสตราจารย์วิชาไซเบอเนติกส์ ศึกษาพบสรรพคุณของกาแฟว่าช่วยให้สมองไวขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้นได้ กาแฟได้ยกระดับเชาวน์ให้สูงขึ้นได้ทันตาเห็น อาจเป็นเครื่องบังเกิดความสำเร็จทางด้านธุรกิจได้ ศาสตราจารย์เควิน วอร์วิก ศาสตราจารย์วิชาเรื่องระบบควบคุมและ สื่อสารของเครื่องจักรและสิ่งมีชีวิตของมหาวิทยาลัยรีดดิงแห่งสหรัฐฯ ได้เสนอรายงานผลการศึกษา ต่อที่ประชุมของสถาบันพัฒนาบุคคลว่า การดื่มกาแฟช่วยให้บุคคลมีระดับเชาวน์สูงขึ้นได้ในระยะสั้นได้ถึง 3 จุด เขากล่าวว่าคุณประโยชน์ของมันจะเป็นเครื่องช่วยความสำเร็จในทางธุรกิจได้
ขณะเดียวกัน สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติที่ฟินแลนด์ ได้รายงานผลการศึกษาวิจัยที่ได้ทำกับผู้ชาย ที่อยู่ในวัยระหว่าง 35-64 ปี เกือบ 7,000 คน และผู้หญิงอีก 7,700 คนว่าได้พบว่า การดื่มกาแฟ อาจจะช่วยป้องกันโรคเบาหวานแบบที่สอง ซึ่งมักเป็นกับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปได้ คนเป็นโรคเบาหวานเนื่องจากร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งมีหน้าที่ทำให้เซลล์ต่างๆ ดูดซึมกลูโคสอันเป็นน้ำตาลในเลือด จนเหลือตกค้างอยู่ในเลือด
ในการศึกษาได้พบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟเป็นประจำวันละ 3-4 ถ้วย จะมีโอกาสเป็นโรคน้อยกว่าผู้ที่ไม่ชอบดื่มกาแฟถึง 29% ยิ่งถ้าเป็นคอกาแฟพันธุ์แท้ดื่มหนักถึงวันละตั้ง 10 ถ้วยขึ้นไปจะห่างจากโรคได้เกือบ 80% ทีเดียว
ถ้าจะถามว่าควรดื่มกาแฟวันละมากน้อยเท่าใด คงหามาตรฐานมาตอบไม่ได้ แต่ส่วนมากจะอยู่ที่วันละ 1-2 แก้ว ต้องดูตามความชอบ และสภาพร่างกายผู้ดื่ม โดยทั่วไป ดื่มให้อร่อยหรือพอใจ คงจะเหมาะสม แต่ก็ควรสังเกตลักษณะอื่นๆ โดยละเอียดดังนี้
ดื่มกาแฟตอนเย็น ทำให้นอนไม่หลับไหม หลายคนเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แต่กาแฟก็มีผลต่อร่างกายแต่ละคนต่างกัน ถ้ากลัวว่าจะนอนไม่หลับให้ดื่มน้อยลงทว่ากาแฟมีผลในการขับปัสสาวะ อาจทำให้ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก รบกวนการนอนได้
เด็กเล็กไม่ควรดื่มกาแฟ โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ
หญิงลูกอ่อนที่คลอดลูกแล้ว 100 วัน และอยู่ในช่วงให้นมลูก ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะช่วง 100 วันนี้ ทารกต้องการน้ำนมบริสุทธิ์จากแม่ การดื่มอะไรเข้าไปจะส่งผลต่อทารกได้
คนเป็นโรคกระเพาะควรงดดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะ จะยิ่งเพิ่มกรดในกระเพาะให้อักเสบมากขึ้น
คนเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีน มีบทบาทในการกระตุ้นหัวใจ ทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งกรณีนี้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กวัยรุ่นถ้าดื่มกาแฟ แต่ถ้าเป็นคนชราที่มีโรคหัวใจอยู่จะทำให้ประสิทธิภาพหัวใจดีเกินไป และหัวใจเสื่อมเร็ว จึงไม่ควรดื่มอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้นสูงควรหลีกเลี่ยง